วันอังคารที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2557

บทที่ 13 จับจองพื้นที่ส่วนตัวบนอินเทอร์เน็ตด้วย google บล็อกเกอร์

Blog คืออะไร

             บล็อกมาจากการผสมคำระหว่าง  WEB ( Wolrd Wide Web) +LOG (บันทึก)  = BLOG  คือ เว็บไซต์ที่เจ้าของ หรือ Blogger สามารถบันทึกเรื่องราวของตนเองลงในเว็บได้ตลอดเวลา  การสร้างเว็บบล็อกสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยตัวเอง ไม่ซับซ้อน ไม่เสียสตางค์ ไม่จำเป็นต้องรู้ภาษา HTML อย่างน้อยขอให้มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับอินเทอร์เน็ตและเว็บไซต์
ภายในเว็บบล็อก จะมีระบบบริหารจัดการเว็บไซต์พื้นฐานให้แล้ว โดยการสร้างเครื่องมือสำหรับ เขียนเรื่อง โพสรูป จัดหมวดหมู่ และลูกเล่นอื่นๆ ที่ผู้จัดทำพยายามสร้างเพื่อดึงดูดผู้คนจากทั่วโลก ให้เข้าไปใช้บริการ เสน่ห์ของบล็อกอยู่ที่ผู้อ่านและผู้เขียนสามารถโต้ตอบกันได้ (Interactive) โดยการแสดงความคิดเห็นต่อท้ายที่เรื่องนั้นๆ
บางคนมองว่าการเขียนบล็อก ก็คือการเขียนไดอารี่ออนไลน์ แท้ที่จริง ไดอารี่ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของบล็อกเท่านั้น คุณเปิดบล็อกขึ้นมาไม่ใช่เพื่อเขียนเรื่องราวในชีวิตประจำวันอย่างเดียว แต่สามารถใส่ความรู้ ประสบการณ์ เพื่อเป็นวิทยาทานให้คนอื่นๆ เช่น คุณหมอ เปิดบล็อกแนะนำเรื่องสุขภาพ เป็นต้น
บล็อก คือ สื่อใหม่ (New Media) เป็นปรากฎการณ์ที่เปลี่ยนรูปแบบการสื่อสารในอดีตอย่างสิ้นเชิง คนเขียนบล็อก สามารถทำหน้าที่เป็นสื่อด้วยตัวเอง ไม่ต้องพึ่งสื่อสารมวลชน เขาสามารถสื่อสารกันเองในกลุ่มเล็กๆ หรือกลุ่มใหญ่ก็ได้ ถ้าเรื่องไหน เป็นที่ถูกใจ ของชาวบล็อก ชาวเน็ต คนๆ นั้น อาจจะดังได้เพียงชั่วข้ามคืน โดยไม่จำเป็นต้องอาศัยสื่อหลักช่วยเลย
            ในปัจจุบันบล็อก ถูกใช้เป็นเครื่องมือสื่อสารรูปแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ฯลฯ และกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยขณะนี้ได้มีผู้ให้บริการบล็อกมากมาย ทั้งแบบให้บริการฟรี และเสียค่าใช้จ่าย ตัวอย่างผู้ให้บริการ Blog เช่น Bloggang, exteen หรือ BlogKa หรือต่างประเทศเช่น Blogger, Wordpress, MySpace
          บล็อกซอฟต์แวร์ หรือ บล็อกแวร์ คือ ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในอินเทอร์เน็ต ในลักษณะของระบบจัดการเนื้อหาเว็บ ที่ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์และผู้เขียนหรือดูแลบล็อกจะแยกจากกันต่างหาก ส่งผลให้ผู้เขียนบล็อกสามารถใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องมีพื้นฐานความรู้ในด้าน HTML หรือการทำเว็บไซต์แต่อย่างใด ทำให้ผู้เขียนบล็อกสามารถใช้เวลาส่วนใหญ่ในการ บริหารจัดการ เพิ่มเติม ข้อมูลและสารสนเทศแทนได้ นอกจากนี้บล็อกซอฟต์แวร์จะสนับสนุน ระบบ WYSIWYG ซึ่งทำให้ง่ายต่อการเขียน



ขั้นตอนการสร้าง Blog 

1.เข้าไปที่ http://www.blogger.com/จะแสดงหน้าจอแบบนี้ ให้คลิกที่ สร้างเว็บบล๊อกของท่านเดี๋ยวนี้ ดังรูป


2.เมื่อท่านคลิกนี้ จะปรากฎดังรูปด้านล่าง


3. ให้ใส่รายละเอียดดังรูป
-ที่อยู่อีเมล : (จากที่ท่านได้สมัคร Gmail มาแล้วก่อนหน้านี้)
-Enter Password : (ใส่รหัสผ่าน)-พิมพ์รหัสผ่านอีกครั้ง
-Displya name (ตั้งชื่อที่จะให้แสดงตอนโพสเว็บบล็อก)
-พิมพ์ตามอักษรที่ปรากฎให้ถูกต้อง
-คลิกดำเนินต่อไป


4.จากนั้นให้ตั้งชื่อ เว็บบล็อกของท่าน
-คลิกที่ตรวจสอบ เพื่อตรวจเช็คดูว่า มีใครใช้ชื่อนี้
ไป หรือยัง ถ้ามีแล้วระบบจะแจ้งเตือนว่าใช้ไม่ได้ และจะมีตัวเลือกให้เราโดยอัตโนมัต ถ้าชอบใจตัวไหน ก็คลิกที่ชื่อด้านล่างตัวนั้นได้ แต่ถ้าต้องการชื่ออื่นอีกก็ตรวจสอบจนกว่าจะได้ชื่อที่คุณพอใจ เมื่อได้ชื่อตามที่ต้องการแล้ว คลิกที่ ดำเนินต่อไป


5. จากนั้นจะเข้าสู่การเลือกแม่แบบว่า เราต้องการเว็บบล็อกรูปแบบไหน มีให้เลือกมากมายตามต้องการสามารถคลิกเพื่อดูตัวอย่างแม่แบบได้ เมื่อได้แม่แบบตามที่เราชอบแล้ว คลิกที่ ดำเนินต่อ
ไป



เมื่อจบ 5 ขั้นตอนข้างต้นถือว่าเสร็จสิ้นขั้นตอนการสร้างบล็อกแล้ว


                             ขั้นที่ 6 ในขั้นตอนนี้เป็นการเลือกจัดการกับบล็อกที่สร้างขึ้น

                      คุณสามารถเข้าไปจัดการส่วนต่าง ๆ ของบล็อกได้จาก www.blogger.com  หรือ draft.blogger.com 





สร้างเนื้อหาบน Blog
  1. เปิด Blogger ของตนเองขึ้นมา จากนั้นลงชื่อเข้าใช้งานให้เรียบร้อย
  2. จะพบกับหน้าแรกของ Blogger ของตนดังรูป
3.กดปุ่ม “บทความใหม่” จากเมนูทางด้านซ้ายมือ (ตามที่วงกลมไว้ตามภาพ) เพื่อสร้างบทความหรือ Post ใหม่

             4.Blogger จะแสดงหน้าบทความเปล่าขึ้นมา


                  5. ใส่เนื้อหาที่ต้องการให้เสร็จเรียบร้อย


6.จากนั้นเลือกเครื่องมือที่ต้องการจัดรูปแบบหรือตกแต่ง จากนั้นจัดรูปแบบตามความต้องการให้เรียบร้อย


    • หมายเลข 1 คือ เลือกเมื่อต้องการจัดรูปแบบทั้งหมดด้วยตนเองโดยการใส่ Code HTML
    • หมายเลข 2 คือ การจัดรูปแบบตัวอักษรทั่วไป Font ตัวหนา ตัวเอียง เป็นต้น
    • หมายเลข 3 คือ การใส่ลิ้งค์(ข้อความหรือรูปภาพ) แทรกรูปภาพ เป็นต้น
    • หมายเลข 4 คือ การจัดตำแหน่งของข้อความ การใส่ Bullet เป็นต้น
    •   7.กดปุ่ม "แสดงตัวอย่าง"  ดูหน้าบทความที่แสดง เมื่อพอใจแล้วจากนั้นกดปุ่ม "บันทึก" และ กดปุ่ม "เผยแพร่" เพื่อ   แบ่งปันบทความ

8.จากนั้น Blogger จะแสดงรายการบทความทั้งหมดที่ได้สร้างไว้ขึ้นมา โดยที่บทความที่สร้างไว้ล่าสุดจะอยู่ด้านบนสุดของรายการ




9.ถ้าต้องการแก้ไข ดู ใช้ร่วมกัน หรือลบหน้าบทความนั้น สามารถทำได้โดยการนำเม้าส์ไปชี้ที่บทความ จากนั้นเมนูย่อยจะแสดงออกมา แล้วเลือกเมนูที่ต้องการกระทำได้เลย


10. เมื่อเลือกดูหน้าบทความนั้น Blogger จะแสดงบทความที่เลือกบนรูปแบบหรือเทมเพลตที่ได้ตั้งค่าไว้


นำ Blog ขึ้นแสดงบนอินเตอร์เน็ต


1. ให้คลิกปุ่ม เผยแพร่


2. เมื่อสร้าง Blog เสร็จแล้ว และสามารถแก้ไข/ดู/ลบ ได้ (ตอนนี้ให้คลิกปุ่ม ดู)


3. จะได้ Blog ที่ขึ้นแสดงบนอินเตอร์เน็ตเรียบร้อยแล้ว


4.แล้วคลิกปุ่ม  เพื่อโพสต์เนื้อหาใหม่เพิ่มเติม โดยจะแสดงที่ รายชื่อ Blogทั้งหมดของยูสเซอร์นี้ (Configure Blog Archive) เพื่อลิงค์ภายใน Blog

การปรับปรุง Blog
  หลักจากนำบล็อกขึ้นแสดงบนอินเทอร์เน็ตเรียบร้อยแล้ว เราสามารถอัพเดท หรือเพิ่มเติมเนื้อหาของเราได้อีกภายหลัง  ซึ่งรวมทั้งการปรับเปลี่ยนรูปแบบของบล็อกได้ด้วย เพื่อให้เนื้อหาบนบล็อกของเราอัพเดทอยู่เสมอ โดยให้เรา login เข้าใช้งาน โดนเราสามารถเลือกเข้าสู่การปรับส่วนต่างๆ ดังนี้
      - บทความใหม่ : ปรับปรุง เพิ่มเติม เนื้อหาภายในบล็อก
      - ออกแบบ : ปรับการจัดวางรูปแบบของบล็อก


หน้าออกแบบ จัดวางรูปแบบและเพิ่มลูกเล่นให้กับบล๊อกโดยการเพิ่มแก๊ดเจ็ต



การปรับปรุงเนื้อหาภานใน Blog

การ แก้ไขบทความของ Blogger มีระบบการใช้งานที่ง่ายมาก อยากจะแก้บทความไหน ก็แก้ในบทความนั้น อยากจะใช้ป้ายกำกับอะไรให้บทความ ก็สร้างป้ายกำกับ และกดตั้งค่าป้ายกำกับ สามารถลบบทความ ลบป้ายกำกับ ดูรายละเอียดการสร้างบทความ เช่น บทความเผยแพร่เวลาเท่าไร ใครเป็นผู้เขียนบทความนั้น เรามาดูเมนูควบคุมต่างๆ ของการแก้ไขบทความกันเลย

   1. การใช้งานป้ายกำกับ เราสามารถ ลบ เพิ่ม และเปลี่ยนป้ายกำกับให้บทความเราได้ โดยการติ๊กช่องหน้าบทความครับ
   2. ช่องค้นหา สามารถค้าหาบทความโดยใส่ Keyword ลงไปครับ
   3. ช่องแก้ไข และ ชื่อบทความหรือหัวข้อใหญ่ของบทความ ในการแก้ไข เพิ่มป้ายกำกับให้บทความ ลบบทความ เราสามารถติ๊กถูกในช่องหน้าแก้ไข จะสามารถแก้ไขได้พร้อมๆกันครับ
   4. ร่างและวางกำหนดการแสดงของบทความ
   5. บทความที่นำเข้ามาจากบล๊อกอื่น
   6. บทความที่เผยแพร่แล้ว
   7. บทความต่อหน้า จะให้หน้านี้แสดงบทความทั้งหมดกี่บทความ
   8. ลบบทความ
   9. ชื่อคนเขียนบทความ
  10. บทความได้เผยแพร่เวลาเท่าไร
  11. รายชื่อป้ายกำกับทั้งหมด ในส่วนของ () คือจำนวนบทความที่อยู่ในป้ายกำกับนั้น
  12. เผยแพร่บทความ (ที่เราติ๊กถูกหน้าบทความ) ใช้สำหรับบทความที่ร่างไว้
  13. ลบรายการที่เลือก (ที่ติ๊กถูกหน้าบทความ)
  14. สร้างบทความใหม่
  15. ชื่อของป้ายกำกับประจำบทความ

บทที่ 12 ท่องโลกทั้งใบกับ Google Earth

ประโยชน์สารพัดของ Google Earth

โปรแกรม Google Earth มีประโยชน์อย่างไร

           นับจากนี้ไปการดูแผนที่จะไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกแล้ว เพราะปัจจุบันมีเครื่องมีไฮเทคอย่าง Google Earth ที่จะมาช่วยในการค้นหา ซึ่งเป็นรูปแบบของการค้นหาง่ายขึ้น และสามารถค้นหาตำแหน่งต่างๆได้ละเอียดมากขึ้น พร้อมเพิ่มความสะดวกสบายสำหรับผู้ใช้งานให้สามารถค้นหาข้อมูลจากแผนที่ได้ง่ายขึ้น ด้วยวิธีที่ง่ายในการค้นหาจุดหมายปลายทางได้ง่ายและสะดวกขึ้นด้วยการใช้แผนที่ ของ Google Earth ที่ให้มุมมองทั้งกว้าง ยาว ลึก แบบมีมิติ ซึ่งเป็นอีกจุดหนึ่งที่ดึงดูดให้นักท่องเน็ตทั้งหลายต่างให้ความสนใจ และตอบรับมากขึ้น แต่ผลพวงที่ตามมา ก็น่าติดตามเช่นกันว่า “Google Earth” จะสามารถเปลี่ยนแปลง ปลุกกระแสของชาวเน็ตได้มากน้อยแค่ไหน และส่งผลกระทบต่อธุรกิจ หรือความเป็นส่วนบุคคลของประชาชน มากน้อยแค่ไหน และจะมีผลดีผลเสียเกิดขึ้นอย่างไร ทั้งนี้ทางกองบรรณาธิการนิตยสาร PC World ได้จัดเสวนาในหัวข้อ “Google Earth มองโลกผ่านดวงตาดาวเทียม” ขึ้น เพื่อเป็นการระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น หาก “Google Earth” ได้รับความนิยมแพร่หลาย โดยได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้อง แผนที่ และ “Google Earth” มาร่วมในการเสวนาครั้งนี้ ประกอบด้วยกิตติ เปรมพินิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีไอเอส โซลูชั่น จำกัด ดร.สุรชัย รัตนเสริมพงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์ความรู้ด้านอวกาศ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) ชัยศิลป์ พนาวิรรธน์ TRAFFIC MANAGER บริษัท ที เอส โลจิสติกส์ จำกัด สมชาย หมื่นนรินทร์ ในฐานะของยูสเซอร์คนหนึ่งที่ได้สัมผัสกับการใช้ Google Earth มาตั้งแต่ต้นโดยมี พงษ์ระพี เตชพาหพงษ์ บรรณาธิการอำนวยการ นิตยสาร PC World และผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ thaigoogleearth.com เป็นผู้ดำเนินการเสวนา PCW : ภายหลังที่มีการใช้ Google Earth กันอย่างแพร่หลายคิดว่าจะช่วยปลุกกระแสอะไรให้เกิดขึ้นบ้างกิตติ : Google Earth คือ ปัจจัยอย่างหนึ่งที่จะผลักดัน และสร้างกระแสให้เกิดการใช้แผนที่ดาวเทียมกันมากขึ้นได้ แต่ถ้าจะนำแผนที่กรุงเทพฯ จาก Google Earth มาทำแผนที่ทั้งหมดคงไม่สามารถทำได้เนื่องจากยังติดปัญหา เรื่องของความเหลื่อมล้ำของเส้นแบ่งของแต่ละแผ่นที่ที่แต่ละหน่วยงานจัดทำขึ้นมา ดังนั้นหากต้องการจัดทำแผนที่ดาวเทียมกันอย่างจริงจัง แล้วนั้น อาจจะต้องมีการซื้อข้อมูลที่มีอยู่ เพื่อมาจัดทำขึ้นเป็นแผนที่ฉบับสมบูรณ์จริงๆ ซึ่งในอดีตการซื้อข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมก็มีการซื้อขายกันอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่มีโปรแกรมในการจัดการภาพถ่ายดาวเทียมเหล่านั้น ดังนั้นเมื่อซื้อภาพถ่ายแผนที่ดาวเทียมไปแล้ว ผู้ใช้จะต้องสร้างแอพพลิเคชันขึ้นมาเองเพื่อใช้ประโยชน์ในด้านต่างๆ ดร.สุรชัย : กระแสของการใช้ Google Earth ช่วยจุดประกายให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้น อาทิ รีโหมดเซ็นซิ่ง หรือ ภาพถ่ายดาวเทียม ซึ่งในอดีตที่ผ่านมามีการใช้แผนที่ดาวเทียมกันบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะใช้เพื่อการค้นหาเส้นทาง และยังเป็นภาพขาวดำ หลังจากนั้นเมื่อมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการผสมผสานเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้าไปส่งผลให้การใช้งานแผนที่ดาวเทียมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อย่างดาวเทียมรุ่นใหม่ๆ จะมีการติดตัวเรคคอร์ดเดอร์ ไว้ด้วย ก็จะทำให้นอกจากดูเส้นทางแล้วยังสามารถบันทึกเสียงหรือภาพที่เคลื่อนไหวแบบใกล้กับปัจจุบันมากที่สุด แต่ถึงอย่างไรการเข้ามาของ Google Earth ก็มีส่วนทำให้สาธารณะเกิดความตื่นตัวมากขึ้น ถึงแม้ว่าประเทศไทยจะมีแผนที่ดาวเทียมใช้มานานแล้วก็ตาม แต่การใช้งานในอดีตถือว่ายังอยู่ในวงจำกัดเฉพาะในหน่วยงานราชการ หรือเอกชนบางแห่ง ซึ่งข้อดีของภาพถ่ายดาวเทียมคือเป็นข้อมูลดิจิตอล และดาวเทียมรุ่นใหม่มี GPS อยู่บนดัวดาวเทียม ดังนั้นเวลาถ่ายภาพมาก็จะบอกค่าพิกัดให้เรียบร้อย ความผิดพลาดก็มีไม่มาก ไม่เหมือนรูปถ่ายทางอากาศที่ใช้เครื่องบิน ดังนั้นเมื่อ Google ออกมาทำตรงนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จ ซึ่ง Google Earth ถือปรัชญาที่ว่าคนที่ใช้แผนที่ไม่เป็นก็สามารถใช้งานได้ เพราะใช้งานง่าย ตรงนี้ถือเป็นข้อได้เปรียบของ Google Earth และสามารถดูได้ทั่วโลก

ติดตั้ง Google Earth

          หากคุณต้องการติดตั้งหรืออัปเกรดเป็น Google Earth เวอร์ชันล่าสุด คุณสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ที่ http://earth.google.com/download-earth.html หากคุณประสบปัญหาในการติดตั้ง Google Earth ผ่านทาง Google Updater คุณสามารถดาวน์โหลด Google Earth เวอร์ชันล่าสุดได้โดยตรงที่
     PC: http://dl.google.com/earth/client/current/GoogleEarthWin.exe
     Mac: http://dl.google.com/earth/client/current/GoogleEarthMac.dmg 


บันทึกภาพแผนที่เก็บไว้

           การเปิดดูตัวอย่างของรูปภาพที่เก็บไว้ในโฟลเดอร์ (Windows XP)article ท่านใดที่ชื่นชอบการสะสมภาพถ่ายเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ขอแนะนำให้สร้างโฟลเดอร์โดยเฉพาะสำหรับจัดเก็บภาพถ่าย โดยจัดแยกภาพถ่ายออกเป็นหมวดหมู่ เพื่อความเป็นระเบียบ และง่ายต่อการเปิดดูภาพเหล่านั้น --- หากท่านใดที่ยังไม่ทราบว่าจะสร้างโฟลเดอร์อย่างไร ขอให้ศึกษาวิธีสร้างโฟลเดอร์ได้จาก “เกร็ดความรู้จากครูตอนที่ 5” --- สำหรับเกร็ดความรู้จากคุณครูตอนที่ 67 นี้ขอแนะนำวิธีการเปิดดูตัวอย่างภาพทั้งหมดที่เก็บสะสมไว้ในโฟลเดอร์ด้วยการเรียกใช้ คำสั่งมุมมองแบบ Thumbnail


คราวนี้ จะเลือกภาพใดมาใช้งานก็จะสามารถเลือกใช้ได้อย่างสบาย ..


ค้นหาสถานที่แบบจำกัดพื้นที่

          ค้นหาสถานที่ที่คุณต้องการทราบ ทุกตรอก ซอก ซอย แม้จะไกลหรืออยู่ลึกเพียงใด และเพิ่มความแม่นยำ ด้วยการกำหนดขอบเขตในการค้นหา ในโปรแกรม GPS ของ Hood Dude สามารถช่วยคุณค้นหาสถานที่ต่างๆในประเทศไทย ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน Hood Dude ก็สามารถค้นหาเจอ แต่เพื่อความรวดเร็วยิ่งขึ้นเราสามารถกำหนดขอบเขตพื้นที่การค้นหาได้

          การค้นหาในรูปแบบที่เราคุ้นเคยนั้น เพียงแค่เราพิมพ์คำที่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของชื่อสถานที่ที่เราต้องการค้นหา ก็จะปรากฏรายชื่อ ของสถานที่ที่มีคำเหล่านั้นออกมามากมายหลายรายการ เช่นเดียวกับผลการเลือกค้นหาจากเมนูประเภทสถานที่ ซึ่งอาจทำให้เราต้องเสียเวลาในการเลือกสถานที่ที่ต้องการจากรายการยาวๆนั้น


          ตัวอย่างเช่น กรณีที่เราค้นหาตามประเภทสถานที่ เช่น “เซ็นทรัล” ก็จะมีรายชื่อสถานที่ที่มีชื่อ“เซ็นทรัล” จากหลายๆจังหวัด หลายๆเขต แสดงให้เราเห็นมากมาย ทำให้เราเลือกไม่ถูก หรือหาสถานที่ที่เราต้องการไม่เจอเพราะลิสต์รายชื่อร้านเยอะเกินไป




กำหนดมุมมองแสดงแผนที่

           แผนภูมิด้านล่างนี้อธิบายคุณลักษณะบางอย่างที่มีใน Google แผนที่ คุณลักษณะบางอย่างอาจไม่มีให้ใช้งานที่ตำแหน่งของคุณ




     1.ค้นหาเส้นทาง - หากต้องการไปไหนสักที่ คลิกที่นี่เพื่อหเส้นทางการขับขี่ การเดิน การขี่จักรยาน หรือระบบขนส่งสาธารณะ
     2.สถานที่ของฉัน - สร้างแผนที่ในแบบของคุณ ดูสถานที่ติดดาวของคุณ และธุรกิจที่คุณเคยให้ความเห็นไว้
     3.ค้นหาแผนที่ - ค้นหาสถานที่ ธุรกิจ ทางแยก ที่อยู่ และอื่นๆ อีกมากมาย บน Google แผนที่
     4.แสดง/ซ่อน - คลิกลูกศรซ้าย (<<) เพื่อซ่อนแผงด้านซ้าย และคลิกลูกศรขวา (>>) เพื่อแสดงแผงดังกล่าว
     5.การนำทางในแผนที่ - คลิกและลากแผนที่เพื่อเลื่อน หรือใช้ลูกศร ลากตัวเลื่อนย่อ/ขยายขึ้นหรือลงเพื่อเพิ่มปริมาณการย่อหรือขยาย
     6.เลเยอร์ - วางเมาส์เหนือวิดเจ็ตที่มุมขวาของแผนที่เพื่อดูเลเยอร์ที่มีให้ใช้งานสำหรับตำแหน่งของคุณ เช่น จราจร ภาพถ่ายและอื่นๆ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเลเยอร์ทั้งหมดที่มีให้ใช้งานได้ใน Google แผนที่
     7.พิมพ์/ส่ง - พิมพ์แผนที่หรือส่งแผนที่ไปให้คนอื่น
     8.ลิงก์มายังหน้านี้ - สร้างที่อยู่เว็บ (URL) สำหรับแผนที่ของคุณ ซึ่งสามารถแชร์กับคนอื่นได้อย่างง่ายดาย
     9.ผลการค้นหา - คุณจะพบ ผลการค้นหา ของคุณที่แผงด้านซ้าย คลิกที่ผลการค้นหาที่คุณต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติม
     10.แผนที่ - พื้นที่แผนที่จะแสดงตำแหน่งทางภูมิศาสตร์พร้อมกับผลการค้นหาที่สอดคล้องกัน และข้อมูลอื่นๆ จากตำแหน่งนั้น
     11.Street View - ลากเพ็กแมนสีเหลืองบนตัวควบคุมการซูมของแผนที่ที่ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่งบนแผนที่ เพื่อดูและควบคุมทิศทางภาพถ่ายในระดับถนน
     12.หน้าต่างข้อมูล - เมื่อคุณคลิกสีแดง หน้าต่างข้อมูล จะปรากฏขึ้นและแสดงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานที่นั้น
     13.มุมมอง - สลับไปมาระหว่างมุมมองแผนที่ ดาวเทียม และ Earth
     14.แผนที่ภาพรวม - ดูสถานที่ตั้งของมุมมองแผนที่ปัจจุบัน (ในกล่องสีม่วง) ของคุณในมุมมองของพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ที่มีขนาดใหญ่ คุณสามารถคลิกเพื่อซ่อนแผนที่ภาพรวมหรือคลิกเพื่อแสดงอีกครั้งได้ตลอดเวลา
     15.รายงานปัญหา - โปรดช่วยปรับปรุง Google แผนที่ให้ดีขึ้นโดยการรายงานปัญหาเกี่ยวกับข้อมูลหรือผลิตภัณฑ์

บทที่ 11 Google Search ค้นหาอะไรก็เจอบนอินเทอร์เน็ต

Google Search คืออะไร ?




          Google Search เป็นเครื่องมือที่ให้บริการค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต ( Search Engine) ของเว็บไซต์ Google.com ที่โด่งดังที่สุดในปัจจุบัน ผู้ใช้งานเพียงเข้าเว็บไซต์ www.google.com จากนั้นพิมพ์คำหรือข้อความ ( Keyword) เกี่ยวกับเรื่องที่ต้องการค้นหา Google Search ก็จะแสดงเว็บไซต์ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับ Keyword เหล่านั้นทันที Google Search สามารถค้นหาข้อมูลที่เป็นไฟล์รูปภาพ ( Images) , กลุ่มข่าว( News Groups) และ สารบนเว็บ ( Web Directory)

     บริการค้นหาข้อมูลของ Google Search แบ่งหมวดหมู่ของการค้นหาออกเป็น 4 หมวดหลักด้วยกัน คือ 


      1. เว็บ ( Web) เป็นการค้นหาข้อมูลในรูปแบบของเว็บไซต์ต่าง ๆ ทั่วโลก โดยการแสดงผลจะแสดงเว็บไซต์ที่มีคำที่เป็น Keyword อยู่ภายเว็บไซต์นั้น
     2. รูปภาพ ( Images) เป็นการค้นหาไฟล์รูปภาพจากการแปลคำ Keyword
     3. กลุ่มข่าว ( News Groups) เป็นการค้นหาข่าวสารจากกลุ่มสมาชิกที่ใช้บริการ Google News Groups เพื่อรับส่งข่าวสารกันเองระหว่างสมาชิก โดยมีการระบุชื่อผู้เขียนข่าว , หัวข้อข่าว , วันที่และเวลาที่โพสต์ข่าว
     4. สารบนเว็บ ( Web Directory) Google มีการจัดประเภทของเว็บไซต์ออกเป็นหมวดหมู่ ซึ่งผู้ใช้สามารถค้นหาเว็บในเรื่องที่ต้องการตามหมวดหมู่ที่มีอยู่แล้วได้เลยทันที

ตัวอย่างการค้นหาข้อมูลด้วย Google 
การค้นหารูป 
ความสามารถที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ชอบกันนักหนา และสร้างชื่อให้กับ Google ก็คือการค้นหารูปภาพด้วย Google Search วิธีการใช้ก็คือ
1. คลิกเมนูลิงค์ รูปภาพ จากนั้นก็พิมพ์ชื่อภาพที่ต้องการค้นหา และคลิกปุ่มค้นหารูปภาพ
 2. จะปรากฏรูปภาพทั้งหมดที่ต้องการ

Google ค้นหาไฟล์ได้ 
 Google สามารถค้นหาไฟล์เอกสารที่สำคัญๆ ได้ดังนี้

  •  Adobe Portable Document Format ( ไฟล์นามสกุล . pdf)  
  • -Adobe PostScript ( ไฟล์นามสกุล . ps) 
  •   Lotus 1-2-3 ( ไฟล์นามสกุล . wk1, .wk2, .wk3, .wk4, .wk5, .wki, .wks และ . wku)
  •   Lotus WordPro ( ไฟล์นามสกุล . lwp) 
  •   MacWrite ( ไฟล์นามสกุล . mw) 
  •   Microsoft Excel ( ไฟล์นามสกุล . xls) 
  •  Microsoft PowerPoint ( ไฟล์นามสกุล . ppt) 
  •  Microsoft Word ( ไฟล์นามสกุล . doc) 
  •  Microsoft Works ( ไฟล์นามสกุล . wks, .wps, .wdb) 
  •  Microsoft Write ( ไฟล์นามสกุล . wri) 
  •  Rich Text Format ( ไฟล์นามสกุล . rtf) 
  •  Shockwave Flash ( ไฟล์นามสกุล . swf) 
  •  Text ( ไฟล์นามสกุล . ans, .txt)
          ค้นหาหน้าเว็บที่มีข้อมูลคล้ายกันได้ 
 ในบางครั้งเมื่อ Cache จะไม่สามารถช่วยผู้ใช้ค้นหาเว็บไซต์นั้นได้ แต่ผู้ใช้งานสามารถค้นหาเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาคล้ายกัน โดคลิกไปยังเมนู หน้าที่คล้ายกัน
          ใช้ Google แทนเครื่องคิดเลขได้
 ผู้ใช้สามารถใช้ Google คำนวณตัวเลขด้วยเครื่องหมายในการคำนวณหลักๆ เช่น + = บวก , - = ลบ , * = คูณ , / = หาร , ^ = ยกกำลัง
         ค้นหาความหมายหรือนิยามของศัพท์เฉพาะ(เป็นภาษาอังกฤษ) 
 Google สามารถค้นหาศัพท์เฉพาะได้ด้วยการพิมพ์ define: ศัพท์เฉพาะ
         การค้นหาข้อมูลแบบละเอียด( Advance Search) 
 เพื่อความแม่นยำในการค้นหาข้อมูล ผู้ใช้สามารถกำหนดเงื่อนไขในแบบที่ละเอียดได้ไม่ยาก เพราะ Google ได้เพิ่มรูปแบบในการกำหนดเงื่อนไขสำเร็จรูปมาให้เรียบร้อยแล้ว โดยคลิกไปยังเมนู ค้นหาแบบละเอียด ด้านขวามือ ก็จะเข้าสู่หน้าค้นหา

google search บนมือถือ


Chrome บนมือถือ 

          ส่วนขยาย Chrome บนมือถือจะช่วยให้คุณสามารถส่งหน้าเว็บจากคอมพิวเตอร์ไปยังแท็บเล็ตหรือโทรศัพท์ของคุณได้ในขณะที่กำลังใช้งาน Chrome อยู่ คุณสามารถใช้ส่วนขยายนี้เพื่อสร้างสำเนาหน้าเว็บให้พร้อมใช้งานสำหรับการดูแบบออฟไลน์บนโทรศัพท์ได้
ตั้งค่า Chrome บนมือถือ  
          หากต้องการใช้ Chrome บนมือถือ คุณจะต้องติดตั้ง Chrome และเปิดใช้งานส่วนขยายดังกล่าวบนโทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์ของคุณ


1.ติดตั้ง Chrome สำหรับมือถือ
  •  แอนดรอยด์ iPad/iPhone
  • iPod Touch 
2.เมื่อติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ให้ลงชื่อเข้าใช้ Chrome
3.หลังจากที่คุณลงชื่อเข้าใช้แล้ว โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าบริการ Chrome บนมือถือถูกเปิดใช้งานแล้ว ในคอมพิวเตอร์ของคุณ